รีวิว + สปอยล์เต็ม: The Last Recipe (2017) — สูตรลับเมนูลับสุดท้าย

เรื่องย่อ
“มิตสึรุ ซาซากิ” (Kazunari Ninomiya) คือเชฟผู้มีพรสวรรค์ด้านการจำรสชาติ แต่ชีวิตกลับตกต่ำเพราะความหยิ่งและหมดไฟในอาชีพ
วันหนึ่งเขาได้รับการว่าจ้างให้ค้นหา “สูตรอาหารลับของจักรพรรดิแมนจู” ที่หายสาบสูญตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 — เมื่อตามรอยไปเรื่อย ๆ เขากลับพบเรื่องราวของ “เชฟ ยา มาซากุ โอโนะ” (Hidetoshi Nishijima) ผู้สร้างสูตรนั้นขึ้นมาท่ามกลางความโกลาหลทางประวัติศาสตร์.
บทความรีวิว
The Last Recipe เป็นหนังที่ผสมผสาน “อาหาร” เข้ากับ “ประวัติศาสตร์” ได้อย่างลงตัว ผู้กำกับ Yōjirō Takita สร้างบรรยากาศอบอุ่นแต่แฝงความเศร้า
ถ่ายทอดอาชีพเชฟในฐานะ “ผู้บันทึกความทรงจำด้วยรสชาติ” ได้อย่างลึกซึ้ง.
การเล่าเรื่องสองยุค — ยุคปัจจุบันของซาซากิ และยุคสงครามของเชฟโอโนะ — เชื่อมโยงกันด้วย “อาหารจานเดียว” ที่สื่อถึงความรัก การเสียสละ และความทรงจำ
Kazunari Ninomiya แสดงได้ยอดเยี่ยม ถ่ายทอดความเย็นชา สับสน และกลับมามีหัวใจอีกครั้ง ในขณะที่ Nishijima ให้ความลึกซึ้งในบทเชฟผู้เสียสละ.
สปอยล์เต็ม
- ภารกิจใหม่: ซาซากิถูกนักธุรกิจจีนจ้างให้ค้นหา “สูตรอาหารแห่งจักรพรรดิ” ที่สูญหายกว่า 70 ปี.
- ตามรอยอดีต: เขาพบเบาะแสของเชฟโอโนะ ผู้เคยทำงานให้รัฐบาลแมนจูและบันทึกสูตรไว้ในสมุดลับ.
- ความลับเปิดเผย: โอโนะสร้างสูตรนั้นเพื่อช่วยชีวิตผู้คนในช่วงสงคราม แต่ภายหลังถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ทรยศ. สมุดสูตรถูกซ่อนไว้ในห้องครัวเก่า.
- การไถ่บาป: ซาซากิเรียนรู้ว่าการทำอาหารไม่ใช่เพื่อชื่อเสียง แต่เพื่อ “มอบชีวิตและความทรงจำให้คนอื่น”. เขาตัดสินใจกลับมาทำอาหารด้วยหัวใจอีกครั้ง.
- ตอนจบ: ซาซากิรังสรรค์ “สูตรลับเมนูลับสุดท้าย” จากสมุดของโอโนะ และมอบให้ลูกหลานของผู้คนที่เกี่ยวข้อง ปิดฉากด้วยภาพจานอาหารที่รวมรสชาติของอดีตและปัจจุบัน.
บทวิจารณ์
จุดเด่น
- การเล่าเรื่องสองยุค: ผสมผสานอดีตและปัจจุบันได้กลมกลืน ทั้งด้านภาพและอารมณ์.
- ธีมอาหารและความทรงจำ: แสดงให้เห็นว่ารสชาติสามารถเชื่อมผู้คนข้ามกาลเวลา.
- ภาพอาหารงดงาม: งานภาพและแสงจาก Takita สร้างบรรยากาศละเอียดอ่อนแบบญี่ปุ่นแท้.
จุดที่อาจขัดใจ
- จังหวะค่อนข้างเนิบ: เน้นอารมณ์มากกว่าพล็อต อาจไม่ถูกใจสายแอ็กชัน.
- อธิบายมากในช่วงท้าย: บางบทสนทนาออกแนวเทศนาเกินไป.
สรุป: The Last Recipe คือหนังอบอุ่นหัวใจที่พูดถึงการ “ส่งต่อรสชาติของชีวิต” และ “ความทรงจำที่ไม่สูญหาย”
เต็มไปด้วยความละเอียดทางภาพ เสียง และการแสดง เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบหนังญี่ปุ่นแนวอบอุ่น ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ.
